Category ข่าวบันเทิง

โอม ภวัต ชี้แจง

"โอม ภวัต" อธิบายหลังโดนแฉพฤติกรรมในอดีต รู้สึกผิดไม่เคยให้อภัยตนเอง

โอม ภวัต หลายท่านอาจจะได้เห็นซรี่ย์เรื่องดัง The Glory ของเกาหลีใต้ ที่กำลังเป็นที่นิยมเวลานี้กันมาบ้าง โดยในเรื่องนี้ จะสะท้อนความจริงอีกมุม ในสังคมวัยเรียนถึงการถูกกลั่นแกล้ง บูลลี่เพื่อนที่โรงเรียน ซึ่งสร้างบาดแผล และก็กระทบต่อจิตใจของเหยื่อ ที่ถูกกระทำมาจนโต

แต่ในวงการบันเทิงไทย ก็เกิดเป็นประเด็น ในรูปแบบนี้เช่นกัน เมื่อมีชาวเน็ตได้ออกมา แฉยับ ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ของนักแสดงคนหนึ่ง ว่าเคยทำพฤติกรรม แกล้งเพื่อนในสมัยเรียน

โอม ภวัต เรื่องบูลลี่

ก็เลยกลายเป็นประเด็นร้อน

ที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจไม่น้อย เมื่อมีแอ็กเคานต์หนึ่งในทวิตเตอร์ ได้ออกมาโพสต์แฉ ถึงนักแสดงซีรีส์วายคนดัง ที่เคยบูลลี่แกล้งเพื่อน เมื่อช่วงสมัยเรียนมัธยม โดยได้บอกเล่า เรื่องราวที่นักแสดงคนมีชื่อเสียงกล่าวเคยทำเอาไว้ว่า

“เมื่อไรเพื่อนเก่าหนู จะโดนแหกเรื่องบูลลี่บ้างอะ รอมานานมาก ชายตึกเจมที่ชอบแกล้งเพื่อน ตั้งแต่ประถมจนถึง ม.ปลายก็ยังคิดไม่ได้ แถมชอบเลือกเหยื่อเป็น ผู้ที่มีอาการออทิสติกอีก เพราะว่าเขาสู้มันมิได้ ไม่สนหรอกว่า เวลานี้เปลี่ยนไปยัง แต่ว่านี่รู้จักมันมาแต่เด็ก สันดานแย่อย่างไรก็แย่แบบนั้น จบ

เอางี้ ใบ้ว่าเรียน ม.ปลายชายล้วน มหาลัยตึกข้าง ๆ พึ่งจะแมสตอนโควิด แกขอโทษคนนั้นคนนี้ ต่อหน้าฟค.แล้วก็อย่าลืมกลับไปขอโทษ ผู้ที่แกเคยแกล้งเขา สารพัดด้วยนะ ใบ้มากกว่านี้พี่ ๆ ชาวเน็ตจะต้องช่วยหนูหารค่าทนายละ

หลังจากทวีตดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกมา ก็มีคนออกมาเดากันไปว่า นักแสดงที่ถูกแฉคนนั้น เป็นใคร แล้วก็หนึ่งในนั้น มีชื่อของนักแสดงหนุ่ม โอม ภวัต จิตต์สว่างดี

ตามมาด้วยคำใบ้ต่าง ๆ จนกระทั่งเกิดเป็นกระแส ตอบโต้ระหว่างชาวเน็ต และกลุ่มแฟนๆ จนถึงขั้นมีแฮชแท็ก เรียกร้องให้เจ้าตัวออกมาแจกแจงข้อเท็จจริง ให้ชัดเจน อย่าง #โอมภวัตออกมาพูดเถอะ

ล่าสุด โอม ภวัตก็ได้ออกมาทวีตข้อความ ถึงประเด็นดังกล่าว ผ่านทวิตเตอร์ว่า “สำหรับเรื่องราวที่เป็นประเด็นอยู่ ผมต้องขอโทษด้วยครับ ที่ออกมาอธิบายช้า เพราะว่าเป็นเรื่องราว ที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นด้วย ผมขออนุญาตอธิบายนะครับ

ผมยอมรับครับว่าตอนเด็ก ๆ ผมซนและแสบมากพอสมควร ซึ่งหลาย ๆ ครั้ง ก็เป็นการเล่นคึกคะนอง แบบเด็กผู้ชายโดยไม่ได้มีเจตนา จะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี

เรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ตอนมัธยมต้น ที่ผมและเพื่อน ๆ แกล้งเพื่อน ซึ่งตั้งแต่ตอนนั้นผมและเพื่อน ๆ ถูกอาจารย์ตักเตือน ลงโทษด้วยไม้เรียว และเรียกผู้ปกครองเข้าพบ

ผมและคุณพ่อคุณแม่ ได้ขอโทษเพื่อน และคุณพ่อและก็คุณแม่เพื่อนสำหรับความผิดของผม ในครั้งนั้น เหตุคราวนั้นเป็นบทเรียนราคาแพง สำหรับผมและทำให้พยายามปรับปรุงตัว ให้ดีขึ้นมาตลอด

ผมรู้สึกเสียใจ ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ช่วงที่ผมเป็นเด็กยังทำให้เพื่อนคนนั้น ต้องมีแผลในใจมาจนถึงวันนี้ ผมขอโทษจริง ๆ จากใจครับ

สิ่งที่เกิดขึ้นผมรู้สึกผิดตลอดชีวิต และไม่เคยให้อภัยตนเองเลย ผมขอโทษทุก ๆ คน ที่ได้รับผลพวงจากความคึกคะนอง ในวัยเด็กของผมด้วยครับ”

โอม ภวัต ประวัติ

โอม ภวัต คนดัง

ประวัติ โอม ภวัต นักแสดงมากความสามารถ โปรไฟล์ไม่ธรรมดาจากรั้ว มศว

โอม ภวัตเป็นหนึ่งในนักแสดงวัยรุ่น ที่เรียกว่ามีผลงานออกมามากมาย และได้รับการยอมรับว่า เป็นนักแสดงเจ้าฝีมือ แล้วก็สามารถได้รับความรัก จากแฟน ๆ ไปทั่วโลกเลยก็ว่า ได้ ซึ่งจะต้องบอกเลยว่า เขาคนนี้มีโปรไฟล์ที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

มาทำความรู้จักกับ โอม ภวัตหนุ่มมากความสามารถ โดดเด่นทางเรื่องการแสดง รวมทั้งแวดวงบันเทิงจาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คนนี้ให้มากขึ้นซักหน่อย

โอม มีชื่อจริงว่า ภวัต จิตต์สว่างดี
เกิดวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2543
ภูมิลำเนา เป็นคน กรุงเทพมหานคร
ความสูง 185 เซนติเมตร
1 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาจาก โรงเรียนโชคชัย
2 เรียนจบระดับมัธยมตอนต้นจาก โรงเรียนสตรีวิทยา 2
3 จบการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายจาก โรงเรียนอัสสัมชัญ
4 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิตอล เอกการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์ วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
IG : ohmpawat

โอม ภวัตเข้าวงการบันเทิงจากการ ที่เขาได้ร่วมเล่น Make It Right the Series รักออกเดิน ซึ่งทำชื่อเสียงให้เขา เป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ที่สังกัด จีเอ็มเอ็มทีวี แล้วก็มีผลงานทางด้านซีรีส์วาย ออกมาหลากหลายชิ้น จนเรียกว่า กลายมาเป็นนักแสดงวัยรุ่น ที่มีชื่อโด่งดัง แล้วก็เป็นที่รู้จัก ในวงกว้างเลยทีเดียว

นอกจากนี้เขายังส่งผลงาน ทางด้านบันเทิงอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นผลงานภาพยนตร์ โฆษณา พิธีกร รวมถึงมิวสิกวิดีโอเลยด้วย และยังรวมไปถึงเขายังได้รับรางวัล นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากเวที ชมรมวิจารณ์บันเทิง ที่เรียกว่าเป็นเวที ที่การันตีผลงานการแสดง

ชื่อของ โอม ภวัตถูกเอ่ยถึงเป็นอย่างมาก ในช่วงต้นปี 2566 จากประเด็นที่มีการกล่าวหาว่า เขาบูลลี่กลั่นแกล้งเพื่อน ตั้งแต่ประถมจนถึง ม.ปลาย และเหยื่อการลั่นแกล้งนั้น เป็นผู้ป่วยออทิสติก หลังจากนั้นทาง โอม ภวัตได้ออกมาแสดงความเห็น กับเรื่องดังกล่าวว่า ในตอนเด็กตัวของเขาเป็นคนซน แล้วก็แสบ

ชอบเล่นคึกคะนอง แบบเด็กผู้ชาย แต่ไม่ได้มีเจตนาจะก่อให้ใครรู้สึกแย่ เขารู้สึกเสียใจ ที่การกระทำของเขา ในตอนเด็กทำให้เพื่อน มีแผลในใจ มาถึงทุกวันนี้.

 

ต่อ ธนภพ บาลานซ์ชีวิต

“ต่อ” บาลานซ์ชีวิตลดความเป็น มนุษย์ถ้ำ ออกไปข้างนอกเยอะขึ้น ไม่หยุดท้าทายตัวเอง

ลุยงานต่อรับปีใหม่ พระเอกฮอต “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” ท้าทายตนเองอีกรอบ กับบทบาทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ในซีรีส์ฟอร์มยักษ์แนวแฟนตาซี “Midnight Museum พิพิธภัณฑ์รัตติกาล” โดย GMMTV เรื่องราวสุดพิศวง ที่เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์สุดลึกลับ แสดงนำกับหนุ่ม กัน-อรรถพันธ์ และนักแสดงคับคั่ง ผลงานของผู้กำกับ หนุ่ม-อรรถพร

ต่อเล่าการทำงานในปี 66 นี้ว่า “ช่วงนี้มีงานถ่ายทำซีรีส์ Midnight Museum นี้ หลัก ๆ ก็จะโฟกัสงานนี้ก่อน เนื่องจากทุกคน จะรู้ว่าผมจะทำที ละโปรเจกต์ ถือเป็นอีกก้าว การแสดงที่ผมว่ามันมิได้ใหม่แค่ผม กับทีมก็ใหม่หมด มันเป็นบทที่ผมไม่คิดว่า จะมีโอกาสมารับแนวนี้ เป็นเรื่องราวแนวที่ผมไม่เคยเล่นเลย เพราะเหตุว่าเป็นแนว Horror Fantasy จะมีหลาย ๆ แนวปนอยู่ในเรื่องเดียว เป็นอีกโปรเจกต์ ที่พยายาม ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง”

ต่อ ธนภพ ลดความ

ความสนุกสำหรับการท้าทายกับงานใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ ของต่อคืออะไร?

“ผมว่ามันก็เป็นเส้นทางของมนุษย์เรา มันบางทีอาจไม่ใช่แค่คำว่า อาชีพนักแสดง ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหน ถ้าเกิดเราได้ชาเลนจ์มันดีเสมอ เพราะสุดท้าย ถ้าเราหยุดท้าเมื่อใด มันอาจจะน่าเบื่อ และเราอาจจะหลงเข้าไปอยู่ ในคอมฟอร์ตโซนโดยไม่รู้ตัว

ผมเชื่อในคำว่าคนเรา จะประสบผลสำเร็จนอกคอมฟอร์ตโซน เลยมีความรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่เวลานี้ ผมดีใจเสมอ เวลามีคนพูดว่า การที่เค้าเห็นความเต็มที่ของเรา เค้าเอาไปปรับใช้ ในสิ่งที่เค้าเป็นอยู่ ผมไม่เคยบอกว่ามาเป็นนักแสดง แบบผมสิ มันดีมากเลย ด้วยเหตุว่าคนเราชอบอะไรแตกต่างกัน แต่ว่าเพียงเค้าได้เห็นอะไรอย่างงี้ ผมก็ดีใจแล้ว”

เรื่องนี้ต้องเปลี่ยนตัวเองยังไงบ้าง?

“จริง ๆ ลดน้ำหนักมา 10 กก. ครั้งที่แล้วแรงกว่าตอน One For The Road เพิ่มน้ำหนักมา 15 กิโลกรัม ก็ทำการบ้านหนักครับผม จากที่ได้เห็นเทรเลอร์ไป คาดว่าจะได้พบซีจีกัน แบบมหากาพย์ ก็จะต้องขอบคุณพี่หนุ่ม-อรรถพร”

รีวิวการทำงานในปี 2565 ที่ผ่านมาหน่อย เพราะว่าต่อเคยกล่าวว่าเป็นปีที่โชคดี?

“เสมือนการได้ออกมาดูแลตัวเองจริง ๆ มันคือการบอกเรา ว่าโตได้แล้ว ผมว่าหลาย ๆ อย่างมันเริ่มจาก คำว่าเอาตัวรอด เราก็อยากไปต่อ จนกระทั่งประสบการณ์ที่สั่งสม ถูกเลี้ยงดูมาจากนาดาว มันก็ได้ใช้ และเป็นเรื่องมุมมองชีวิตด้วยมั้ง เพราะผมมีความคิดว่าอยากลดความเป็นมนุษย์ถ้ำของตัวเอง ที่ไม่ค่อยออกไปไหน อยากออกไปเจอพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่เราสนิท ที่เรารักมากขึ้น อยากไปงานต่าง ๆ ไปยินดีกับพวกเค้าจริง ๆ มากขึ้น

เมื่อก่อน ผมจะลำดับความสำคัญ แบบคลั่งนิดหนึ่งให้งาน ๆๆ ขณะนี้ก็จะพยายามซอฟต์ลง ให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น แบ่งแยกชีวิตส่วนตัวของตน ออกมาให้ดีขึ้น ในที่สุดแล้วมันคือชีวิตเรา ผมต้องการมีชีวิตที่ผมแฮปปี้ ไม่ว่าจะกับแฟนคลับ หรือไม่ว่าใครก็บาลานซ์ ให้มันอยู่ในจุด ที่มีความสุข พยายามหาผู้ที่เค้ารักเรา ที่เป็นเราจริง ๆ”

ทำให้เรามีความสุขขึ้นด้วยมั้ย?

“ผมว่ามันรีแลกซ์ขึ้น จริง ๆ ความสุขผมมีนะ เพราะเหตุว่าการทำงานผมไม่เคยทุกข์”

ถามที่อัปรูปไปเที่ยวทะเลมาไม่นานนี้?

“อ๋อ รูปเก่าครับผม (ยิ้ม) จะพูดว่าทุกครั้งที่เราลงรูปทะเล ขอให้แฟนคลับ รู้ไว้ว่านั่นคือช่วงที่ธนภพอยากไป แต่ไม่ได้ไป (ยิ้ม) เลยขอลงรูปหน่อยก็ยังดี”

ไม่หาเวลาปลดปล่อยพักผ่อน?

“ไม่อยากให้มองว่าปลดปล่อย ด้วยเหตุว่าผมเป็นคนแฮปปี้ กับการทำงาน แต่ว่าถามว่าวันที่เราทำมาเรื่อย ๆ ไม่ต้องการโกหกว่าเราไม่มีความรู้สึกอยากพัก จริง ๆ ระหว่างทางเรา อยากพักตลอด แต่ว่าทุกครั้งที่เรา เห็นการซัพพอร์ตอะไรดี ๆ เราก็จะมีความรู้สึกว่าไปอีกหน่อย มันก็จะอีกหน่อยไปเรื่อย ๆ”

แปลว่าเวลาลงรูปทะเลก็ช่วยได้?

“ช่วยได้ในแง่แบบความรู้สึกลึก ๆ”

ต่อ ธนภพ ในงาน

ต่อ ธนภพ ร่วมงาน

เปิดภาพ พระเอกดังเพียงผู้เดียว ต่อ ธนภพ ที่ได้ร่วมงานปาร์ตี้ กับนางเอกตัวแม่ของวงการ

รวมตัวกันแล้ว สำหรับแก๊งซุป’ตาร์เมืองไทย ที่จัดไพรเวตปาร์ตี้ ส่งท้ายปีที่บ้านของ คุณแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง บอกเลยว่าแต่ ละคนเป็นนางเอกระดับต้น ๆ ของประเทศไทยทั้งหมด และก็ในคืนนั้น มีกิจกรรมจับฉลาก ของขวัญสุดปังจากมาดามแป้ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ความสนุกตลอดงาน

เราจะเห็นภาพถ่าย แก๊งนางฟ้า แต่ละคนสวยปังทั้งนั้นเลย บอกเลยค่ะว่า สวยปังกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ริต้า ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช, แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ, เชอรี่ เข็มอัปสร, แอน ทองประสม, นัท มีเรีย

รวมทั้งมีพระเอกหนุ่มสุดฮอต ที่ได้ไปร่วมสนุกในคืนนั้น นั่นคือ ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ภาพ พร้อมเขียนแคปชั่น ด้วยความตรึงใจลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว

โดยใจความดังกล่าว ระบุว่า “Lots of love here Thank you P’@panglamsam for hosting a lovely party last night.⁣ Thank you and very happy to see everyone kub”

ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “รักทุกคนมาก ๆ ที่อยู่ตรงนี้ ขอบคุณพี่แป้งที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ปาร์ตี้เมื่อคืนสนุกมาก ขอบคุณ และมีความสุขมาก ที่ได้มาเจอกันครับ”

เวียร์ ศุกลวัฒน์ ปลื้มลูกคนแรก

เปิดใจ "เวียร์ ศุกลวัฒน์" ปลื้มน้ำตาไหล อุ้ม น้องวีลิน ครั้งแรก

เปิดใจหนแรก คุณพ่อป้ายแดง เวียร์ ศุกลวัฒน์ ผ่านรายการ เที่ยงบันเทิงสด เผยดีใจน้ำตาไหล ได้อุ้ม น้องวีลิน ลูกสาว ครั้งแรก ช่วยเติมเต็มให้ชีวิต ครอบครัวสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น สารภาพสุดเห่อ วางเป้ามีลูก 2 คน

เป็นคุณพ่อป้ายแดงหมาด ๆ สำหรับพระเอกช่อง 7HD เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ หลังที่ วิกกี้ พีมนต์ญา ภรรยาสาวสวย ได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนแรก น้องวีลิน ท่ามกลางความยินดีจากเพื่อน พี่น้อง ทั้งในและก็นอกวงการบันเทิง ไม่น้อยเลยทีเดียว

เวียร์ ศุกลวัฒน์ ลูกวิกกี้

ล่าสุด หนุ่ม เวียร์ ศุกลวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์

ทางโทรศัพท์กับทางรายการ เที่ยงบันเทิงสด ทางช่อง 7HD โดยมี แอมป์-พีรวัศ กุลนันทวัฒน์ รวมทั้ง นิวหนวด-ธนิศ แก้วนาค รับหน้าที่เป็นพิธีกร ซึ่งได้ให้คำตอบ ด้วยน้ำเสียงสดใส ภายหลังถูกถามด้วยคำถามแรก ว่าได้นอนบ้างหรือยัง

“ยังมิได้นอนเลยครับ คือไม่ได้เลี้ยงลูกตลอด แต่ว่าคือทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง จะต้องให้นมแม่ครับ ตัวผมก็ต้องตื่นมา หยิบจับโน่นนี่นั่น ช่วยกันครับ ส่วนน้องวีลิน หน้าเหมือนใครนั้น ยังดูไม่ออกครับ น่าจะผสม ๆ กันนะครับ แต่ว่าขาวได้แม่ครับ”

วินาทีแรกที่ได้รับน้องวีลินมาอุ้ม รู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?

“ในช่วงเวลานั้น น้ำตาไหลเลย คือเราเฝ้ารอ เป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น ในชีวิตเรา และเรารู้สึกว่า นี่แหละมั้งคือสิ่งที่เรารอคอย มันก็เติมเต็ม ให้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์ขึ้น อีกสเต็ปหนึ่ง เรื่องเห่อลูกไหม จริง ๆ เห่อกันทุกคนเลยครับ ผมก็ขออุ้มทั้งวันเลยครับ ทางฝั่งคุณย่า คุณยาย จัดมาเต็มที่แล้วครับ รับขวัญเรียบร้อย ทางวิกกี้ดีขึ้นแล้วครับ เริ่มกินอาหารอ่อน ๆ ได้”

ลูกคนแรกมาแล้ว คนที่ 2-3-4 จะตามมาเลยไหม ?

“จริง ๆ คิดไว้ว่าต้องการมีอีก แต่ทั้งนี้ จะต้องรอดูลูกคนแรกก่อนว่า จะเลี้ยงดู แล้วเป็นยังไง ซึ่งจริง ๆ ก็ต้องมองหลาย ๆ อย่าง ทั้งในเรื่องของอายุ รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผมคิดไว้ ก็ต้องมี 2 คนนะครับ ผมได้คุยกับวิกกี้ไว้ ว่าน่าจะเลี้ยงเองครับ ในอนาคตอาจมีแม่บ้าน มาดูแลเรื่องทำความสะอาดเพิ่มขึ้น คือคงจะเพิ่มในเรื่องของแม่บ้าน แต่ว่าถ้าเกิดเลี้ยงและดูการเจริญเติบโต พัฒนาการของเขา ผมก็คงจะช่วยกันดูกับวิกกี้ครับ”

“ผมขอฝากไปถึงทุกคนครับ แฟนคลับ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในแวดวง และก็เพื่อน ๆ ที่อยู่นอกวงการ แฟน ๆ ช่อง 7HD ทุกคนเลยนะครับ ที่ส่งกำลังใจให้ กำลังคอยสนับสนุนทั้งผม วิกกี้ ขณะนี้เรามีสมาชิกใหม่ ขอบคุณครับทุกคน ที่ทำให้เรารู้สึก ว่าเรามีคนน่ารัก ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา มีกัลยาณมิตรที่ดีคอยช่วยเหลือกัน ทุก ๆ วันนี้จะมีพี่ ๆ มาถามว่า มีอะไรปรึกษาได้ อยากได้อะไรเพิ่มบอกได้นะ ส่งกำลังใจมาให้ผม ส่งทั้งของลูก ของแม่มาให้ จะต้องพูดว่าขอบคุณทุกคน ที่น่ารักกับเราแบบนี้นะครับ ยังไงก็คอยติดตาม พัฒนาการของน้อง ของครอบครัวเรา ได้เรื่อย ๆ นะครับ”

เวียร์ ศุกลวัฒน์ ชวนถ่ายภาพ

“เวียร์” เห่อลูกสาวมาก คุณพ่ออวดมุมถ่ายรูปกับ “น้องวีลิน”

เพิ่งมีสมาชิกตัวน้อย มาเพิ่มสำหรับครอบครัวคณารศ และคุณพ่อป้ายแดง อย่างพระเอกหนุ่ม เวียร์ ศุกลวัฒน์นั้นไม่ต้องพูดว่า จะเห่อลูกสาวมากแค่ไหน หลังจากภรรยาสาว วิกกี้ พีมนต์ญา พึ่งคลอด น้องวีลิน บุตรสาวคนแรก

ซึ่งมีภาพของ คุณย่าแหม่ม คุณแม่ของเวียร์ ที่มารับขวัญหลานสาวตัวน้อย และ เวียร์ ที่ทำหน้าที่พ่อ สุดละมุนอุ้มลูกสาว และก็ล่าสุด ในอินสตาแกรมของคุณพ่อป้ายแดง ที่พึ่งโพสต์รูป กับมุมถ่ายภาพที่จัดไว้ให้ เตรียมต้อนรับญาติ ๆ รวมทั้งคุณพ่อขอถ่ายรูปมุมนี้ กับลูกสาวก่อน เพราะเหตุว่าสารภาพเลยว่า เห่อลูกสาวมาก เวียร์ ทำปากจู๋ถ่ายรูปกับแคปชั่นว่า

“มุมถ่ายรูปพร้อมครับ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ลุง ป้า น้า อา ป๊าขอถ่ายก่อนครับ อิอิ …บอกเลย เห่อลูกสาวมาก @vikkiiexplorer @weircationofficial”

เวียร์ ศุกลวัฒน์ คุณแม่
แม่เวียร์ ศุกลวัฒน์ ดอดอุ้ม วิลิน แล้วหลัง วิกกี้เพิ่งจะคลอดลูก

“แม่เวียร์ ศุกลวัฒน์” พระเอกดัง ดอดอุ้ม “วิลิน” หลานรักแล้ว หลัง “วิกกี้” ลูกสะใภ้เพิ่งคลอดไม่นาน ด้านชาวเน็ตแห่ไลค์ และก็ดูความน่ารัก เพิ่งออกมาประกาศข่าวดี ผ่านอินสตาแกรมไปหมาด ๆ สำหรับดาราดัง เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ ที่ล่าสุดภรรยาสาว วิกกี้ พีมนต์ญา ได้ให้กำเนิดลูกสาว คนแรกของครอบครัว น้องวิลิน ไปหมาด ๆ เมื่อวานนี้ 19 ธ.ค. ท่ามกลางความดีใจและแฮปปี้ ของแฟน ๆ ทุกคนและครอบครัว

ล่าสุด คุณแม่พลอยไพลิน แม่ของหนุ่มเวียร์ ได้เดินทางไปเยี่ยมและก็อุ้มน้องวิลินแล้ว โดยมีการอัพเดทรูปของตัวเองอุ้มน้องวิลิน และก็ตอนหนุ่มเวียร์ ดูแลลูกให้ได้เห็น โหมดคุณพ่อมือใหม่ชัด ๆ โดยหลาย ๆ คนบอกน้องน่ารักมาก บ้างก็พูดว่าคุณย่า และก็พ่อเวียร์ยอดเยี่ยมอ่ะ ดูแลเก่งและน่ารักมาก บ้างก็พูดว่าหลงรักครอบครัวคณารศอีกด้วย

ซึ่ง ข้อความที่คุณแม่เขียนคือ “My little princess we love you so so much @weir19 @vikkiiexplorer” ซึ่งก็มีแฟน ๆ มาไลค์ แล้วก็แซวความน่ารักแบบรัว ๆ ทันที

Titanic แจ็กโรส

เจมส์ คาเมรอน ทำการวิจัยหักล้างทฤษฏีที่ แจ็ค ดอว์สัน รอด เพราะสุดท้ายก็ตายอยู่ดี

วันที่ 19 ธ.ค. 2022 ถือเป็นฤกษ์งามยามดี เพราะเหตุว่าตรงกับวัน ที่ภาพยนตร์ Titanic (1997) ฟอร์มยักษ์ สุดยิ่งใหญ่ เข้าฉายในสหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรกเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เคยเป็นหนังที่ครองอันดับ 1 ของหนังทำเงิน สูงสุดทั่วทั้งโลก รวมทั้งตอนนี้ก็ยังอยู่ที่อันดับ 3 แล้วก็ยังเป็นเจ้าของ รางวัลออสการ์ 11 สาขา แล้วก็รางวัลลูกโลกทองคำ

Titanic เจมส์ คาเมรอน

Titanic นอกจากวิสัยทัศน์ แล้วก็การทำงานหนัก

ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) แล้ว เรื่องราวเนื้อหาโศกนาฏกรรม และพล็อตรัก โรแมนติกดราม่า ที่ผูกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก็ส่งให้ คู่ขวัญ แจ็ก-โรส เปลี่ยนเป็นคู่พระนาง ที่คนทั้งโลกต่างหลงรัก จนขนาดฉากสุดท้าย ที่ตัวละคร แจ็ก ดอว์สัน (Jack Dawson) หนาวตายอยู่กลางทะเล ก็ยิ่งทำให้หลายคนที่อินจัด คิดว่าการตายของแจ็ก ดูจะโหดร้ายและไม่มีเหตุผล ไปหน่อยหรือเปล่า

ถ้ายังจำกันได้ ฉากนี้เป็นฉากหลังจากที่เรือล่ม แจ็กและโรสลอยคอกระทั่ง มาพบกับแผ่นไม้แผ่นหนึ่ง (ที่เป็นเศษชิ้นส่วนจากผนัง ไม่ใช่ประตู) ทีแรกทั้งสองจะไต่ขึ้นไปบนแผ่นไม้ ด้วยการให้โรสปีนขึ้นไปก่อน จนกระทั่งเมื่อแจ็กจะปืนขึ้นตาม เนื่องจากว่าไม้รับน้ำหนักมิได้ ไม้ก็เลยพลิกคว่ำ ทำให้แจ็กต้องยอมเสียสละ ลงมาลอยคอ ในน้ำและก็เกาะไม้กระดานแทน จนกระทั่งเมื่อโรสผล็อยหลับไป และก็ตื่นขึ้นมา เธอก็พบว่า แจ็กทนความหนาวเย็น ของน้ำทะเลไม่ไหว แล้วก็เสียชีวิตลงในที่สุด

อาจจะด้วยความขัดใจ ในตอนจบหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็เลยเกิดคำถามขึ้น ในหมู่แฟนหนังว่า แล้วเพราะเหตุใดโรสจึงไม่ช่วย (ทำอะไรก็ตาม) ที่จะทำให้แจ็กขึ้นไป อยู่บนกระดานไม้ได้ เลยไปจนถึงการตั้งทฤษฏี Fanmade ขึ้นมาว่า จริง ๆ แล้วกระดานแผ่นนั้น สามารถแบ่งให้คนสองคน อย่างแจ็กและก็โรสขึ้นไปลอยตัว บนนั้นได้หรือเปล่า

แน่นอน ว่าผู้กำกับแล้วก็ผู้เขียนบท ด้วยตัวเองอย่างคาเมรอน

คงเอือม ๆ กับการต้องมานั่งอธิบาย ถกเถียงว่า เพราะอะไรเขาถึงเขียนบท ให้แจ็กตาย แล้วเพราะเหตุใดไม่เขียนบท ให้โรสแบ่งไม้กระดาน ให้แจ็กขึ้นมาลอยน้ำ พร้อม ๆ กันเพื่อจะได้รอดกันทั้งคู่

ปัจจุบัน คาเมรอนได้ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ กับเว็บไซต์ The Toronto Sun ว่า เพื่อจะลบล้างทฤษฏี แฟนเมดนี้ลงอย่างสมบูรณ์ แบบได้สักที สำหรับการถ่ายทำสารคดี เกี่ยวกับหนังเรื่อง Titanic ของ เนชันแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic) เขาก็เลยได้ให้นักวิจัย ทำการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ ด้วยการศึกษาวิจัยผ่านการจำลอง สถานการณ์ในหลาย ๆ รูปแบบ เพื่อยืนยันว่า ไม้กระดานนี้ไม่สามารถ รับน้ำหนักของคนสองคนได้ และไม่ว่าจะอย่างไร แจ็ก ดอว์สัน ก็ไม่รอดอยู่ดี

“เราได้ทำการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ เพื่อคลายข้อสงสัยเหล่านั้น และเพื่อให้เข้าถึง แก่นแท้ของมันจริง ๆ ตั้งแต่นั้นมา เราได้ทำการวิเคราะห์ ทางนิติวิทยาศาสตร์ อย่างละเอียดถี่ถ้วน กับผู้เชี่ยวชาญด้าน *ไฮโปเธอร์เมีย (Hypothermia) และทำการจำลองแผ่นไม้ ที่อยู่ในหนัง เพื่อที่เราจะทำสิ่งพิเศษ กับมันนิดหน่อย ตอนที่หนังจะได้กลับ เข้าไปฉายในเดือนกุมภาพันธ์”

“เราได้ให้สตันต์แมนสองคน ที่มีน้ำหนักตัวเท่ากับเคต (เคต วินสเลต Kate Winslet) และลีโอ (ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ Leonardo DiCaprio) และเราก็ทำการติดเซ็นเซอร์ ทั่วร่างกายทั้งภายนอกรวมทั้งข้างใน ก่อนที่จะให้พวกเขาลงไป ในถังน้ำแข็ง ก่อนเราจะทดสอบว่า พวกเขาจะรอดชีวิต ด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้หรือเปล่า และก็คำตอบก็คือ ไม่มีทางที่ทั้งสองคนจะรอดตายได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอด”

Titanic แต่ละฉาก

ก่อนหน้านี้ในปี 2013 รายการทดลองทางวิทยาศาสตร์

มีชื่ออย่าง Mythbusters ทางช่อง Discovery Channel ก็ยังเคยเอาทฤษฏีนี้ ไปทดสอบ โดยพิธีกรได้ทฤษฎีว่า แจ็กจะสามารถรอดชีวิตได้ด้วยการผูก เสื้อชูชีพของโรสไว้ใต้แผ่นไม้ เพื่อช่วยสำหรับในการพยุงตัว ซึ่งพิธีกรทั้งคู่ก็ได้พิสูจน์ ให้เห็นว่า คนสองคนสามารถลอยน้ำได้ บนแผ่นไม้จริง ๆ

ซึ่งคาเมรอน ก็เคยออกมาแย้งการทดสอบนี้ และการันตีถึงเหตุผลเกี่ยวกับการตาย ของแจ็กว่า นั่นก็เป็นเพราะจุดประสงค์ทางศิลปะนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วเขาเอง ก็ยังต้องการจะการันตีด้วยการทดสอบครั้งนี้ว่า

ถึงแม้แผ่นไม้แผ่นนั้น จะมีที่ว่างสำหรับสองคน รวมทั้งสุดท้ายแจ็กจะขึ้นไปบนแผ่นไม้ได้ แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีแรง พยุงมากพอ ที่จะทำให้คนสองคน ลอยน้ำได้โดยไม่จม และจะต้องไม่ลืมว่า อุณหภูมิอากาศและน้ำณ เวลานั้นหนาวยะเยือก ในระดับติดลบด้วย การดำน้ำลงไปผูกเสื้อ ชูชีพใต้แผ่นไม้ จึงน่าจะทำได้ยากมากๆ

สำหรับในการสัมภาษณ์กับ Vanity Fair คาเมรอนได้ชี้แจงว่า ถึงแม้แจ็กจะป่ายขึ้นไปบน แผ่นไม้ได้ก็ตาม แต่ในที่สุด แจ็กก็ต้องตายอยู่ดี โดยเขากล่าวว่า

“ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องไร้สาระจริง ๆ ที่ 20 ปีต่อมา เราก็ยังคุยเรื่องนี้กันอยู่ แต่มันก็แสดงให้เห็นว่า หนังเรื่องนี้มีผล ทำให้แจ็กเป็นที่รักของผู้ชม จนทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวด ที่ต้องเห็นเขาตาย หากเขายังอยู่ ตอนจบของหนังเรื่องนี้ คงไม่มีความหมาย…เพราะหนังเรื่องนี้ เกี่ยวกับความตายและการพลัดพราก เขาจึงต้องตาย มันเป็นเหตุผลทางศิลปะ ไม่ใช่เหตุผลทางฟิสิกส์”

เฟิด คาริญญ์ยวัฒ ร้องนำ

“เฟิด” เปิดปากเรื่องหัวใจ รัก “แม็กซีน” พอดีทุกอย่าง เจอกันในวันที่เปลี่ยนตัวเองแล้ว

โลกทั้งใบเป็นสีชมพู หนุ่มมาดเข้ม “เฟิด คาริญญ์ยวัฒ” นักร้องนำวง สล็อตแมชชีน เปลี่ยนเป็นหนุ่มคลั่งรัก กับสาวหน้าใส “แม็กซีน–อินทิพร” เผยมุมสุดหวาน นักร้องกะน้องรักในไอจี เลยต้องชวน เฟิด มาเปิดใจถึงความรักครั้งนี้

แม็กซีนทำให้โลกเราเปลี่ยนไปมั้ย?

“ จริง ๆ เราเปลี่ยนตัวเองก่อน บางทีอาจเป็นกฎแห่งแรงดึงดูดด้วย แต่ว่าจริง ๆ สิ่งที่ยากเป็นการเปลี่ยนตัวเองก่อน ผมว่าคนทุกคนรู้ว่าตัวเอง ต้องการอะไรแต่ยังไม่ยอมเปลี่ยน ผมก็ใช้เวลานานเช่นกัน กว่าจะเปลี่ยนตัวเองขนาดนี้ ”

เฟิด คาริญญ์ยวัฒ แฟน

เฟิด คาริญญ์ยวัฒ มันมีจุดเปลี่ยนตรงไหนมั้ย?

“ คงเป็นช่วงโควิด-19 แล้วก็เพราะเลิกกับแฟนคนก่อน ผมมองว่าเราจบเหมือนเดิมตลอด เลยกลับมาทบทวนตนเอง ว่าเราเปลี่ยนคน แต่ว่ามันคือเรื่องเดิม ๆ ปัญหาเดิม ๆ เพราะว่าเราไม่เคยเปลี่ยน เราเป็นอย่างนี้มาตลอด มันก็จะเป็นผลลัพธ์เดิม ”

แม็กซีนเจอเฟิด ในเวอร์ชันเปลี่ยนไปแล้ว?

“ ใช่ครับ เค้าเองก็เปลี่ยนไปแล้ว จักรวาลก็เหวี่ยงมาพบกัน ในเวลาสมควร ”

ปิ๊งตั้งแต่ตอนแรกพบ?

“ ไม่เลยครับ จริง ๆ แม็กซีน ก็อยู่ในวงการมาก่อน เคยเจอกันในรายการเพลง อะจ๊าก ของ CheezTV เลยเป็นเพื่อนกันในโซเชียล แต่ว่ามิได้เคยรู้จักตัวตน หรือคุยกันมาก่อน มาพบกันจริง ๆ หลังโควิด-19 จะไปทริปทำบุญ ไหว้พระที่ถ้ำนาคา แล้วเห็นน้องเค้าอยู่ที่นั่นพอดี เราเลยทักว่าไปอย่างไรอะไร ธรรมชาติของเค้า เป็นคนจิตใจดีช่วยคน แบบที่เราคิดว่า จะต้องช่วยขนาดนี้เลยเหรอ คือเอาตัวมาพาไปเลย เค้าชอบด้วย เลยอยากไปอีก

จากนั้นใช้เวลาอีกหลายเดือนเลย ค่อย ๆ ศึกษากัน มันเป็นเวลาสั้น ๆ แต่ว่ามันก็เข้มข้นมาก คุณพ่อผมป่วย คุณพ่อผมเสียเค้าก็อยู่ในช่วงเวลานั้น ส่วนของเค้าเอง เค้าก็สร้างตัวตนใหม่ เค้าออกมาจากวงการ ไปทำธุรกิจของตัวเอง มันมีหลาย ๆ เรื่องราวที่พิสูจน์หลายอย่าง ”

ใครจีบใครก่อน?

“ ถ้าทักเค้า ผมทักก่อน แต่ว่าครั้งนี้ไม่เหมือน ความสัมพันธ์ทุกครั้ง เพราะว่าเหมือนเราไม่ได้จีบกัน ไม่ได้เริ่มจากความชอบ เริ่มจากความเป็นมิตรที่ดี ”

ปัจจุบันนี้ดูหวานคลั่งรักมาก?

“ คลั่งรักครับ ผมว่ามันเป็นธรรมชาตินะ เราไม่ได้ปิดบังทุกอย่าง ทำไปโดยธรรมชาติ แต่แค่ช่วงเวลาตีกัน มันไม่มีผู้ใดมาถ่าย(ยิ้ม) เราก็คือมนุษย์ 2 คน ”

คนแซวเราเยอะมั้ย?

“ ไม่ค่อยแซวหรอก แต่ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าเค้ามายินดีด้วย ผมรู้สึกกับคำว่า เห็นพี่มีความสุข ”

สิ่งที่ประทับใจในตัวเค้าที่สุด?

“ มันพอดีทุกอย่าง ไม่มาก ไม่น้อย เราแบ่งปันกันทุกสิ่ง เลยมีความเป็นเพื่อนพี่น้อง เป็นครูนักเรียน สอนบทเรียนซึ่งกันและกัน เค้าเป็นคนใจร้อน ผมเป็นคนใจเย็น เค้าไฮเปอร์มันก็ดึงผม ซึ่งเป็นคนเฉื่อย ๆ ขึ้นมา ”

เฟิด คาริญญ์ยวัฒ เที่ยว

ในไอจีเลยได้เห็น อีกมุมของเฟิด ที่คนไม่ค่อยเห็น?

“ ใช่ เพราะผมก็สบายใจ ที่จะถ่ายทอดออกไป ไม่ได้มีความรู้สึกว่าต้องทำเพราะว่า หน้ากล้องกับหลังกล้อง ก็เหมือนที่ทุกคนเห็น ”

มีอะไรที่ต้องปรับกันอีกมั้ย?

“ ไม่ได้คาดหวังหรือตั้งอะไรไว้ เมื่อก่อนถ้าหากมันดีมาก ๆ เราก็จะคาดหวังให้มันดีตลอดไป แต่ ณ ขณะนี้ เราก็ทำให้เป็นธรรมชาติ แต่ว่าสิ่งสำคัญ คือเราคุยกันและยอมรับฟังจริง ๆ จริง ๆ เราจะเลิกกันหลายครั้งนะ แต่ว่าเราหันมาคุยกัน แฟร์กัน ถ้าเกิดผิดก็ยอมรับ ขอโทษให้อภัย ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะแต่ละคนก็เจอกัน ในช่วงเวลาที่รักตนเอง และเคารพตัวเองมากพอ ”

ใครหวานกว่ากัน?

“ จริง ๆ ผมเป็นคนโรแมนติกนะ ”

มองรักคราวนี้ไปข้างหน้ายังไง อยากให้คนนี้คือคู่ชีวิตมั้ย?

“ จริง ๆ เวลาผมมีความรักทุกหน ผมมองถึงเป็นครอบครัวหมด ทุก ๆ ความสัมพันธ์ผมคบและคิดว่าคนนั้น จะเป็นแม่ของลูกอยู่แล้ว เราก็มองไว้ แต่ไม่ได้คาดหวังว่า มันต้องเป็นอย่างงั้น เท่าเมื่อก่อนแล้ว ก็ปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ได้กะเกณฑ์อะไร ”

เรากลับมาทัวร์คอนเสิร์ตเยอะ ๆ เค้าเข้าใจมั้ย?

“ เค้าเข้าใจ ให้เกียรติเราและภูมิใจกับเราด้วยครับ ”

เฟิด– คาริญญ์ยวัฒ ดุรงค์จิรกานต์ เป็นนักร้องนำ วงร็อกในตำนาน ที่สร้างเพลงดี ๆ มากมายมาร่วม 16 ปี อย่าง Slot Machine หลาย ๆ คนรวมทั้งเรามีภาพจำ กับเขาในฐานะ เฟิด Slot Machine เจ้าของเสียงร้องมีเสน่ห์ สัญลักษณ์มือสามเหลี่ยม

ที่มาคู่กับ การแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต ที่พาทุกคนกระโดดกันสุดตัว แน่ ๆ ว่าเราเองก็กระโดด ไปกับเพลงของ Slot Machine มานับไม่ถ้วน รวมทั้งมีเพลงโปรด ติดเพลย์ลิสต์ ที่เปิดฟังอยู่เป็นประจำ อย่างเพลง ผ่าน, จันทร์เจ้า, คำสุดท้าย, ฝัน, รอ, เคลิ้ม และก็ เปลือก

เจนนี่ รัชนก ไปดูดวง

“เจนนี่” ควงสามี “ยิว” ดูดวงครั้งแรก อึ้งถูกหมอดูทักแม่นจนขนลุก

เรียกได้ว่าเป็นคู่รัก มีชื่อเสียงที่นอกจากลัคกี้อินเกมแล้ว ยังเป็นคู่ที่อินเลิฟ เอามาก ๆ สำหรับนักร้องสาวแดนสตอ เจนนี่ รัชนก แล้วก็สามีหนุ่ม ยิว ฉัตรมงคล สมแก้ว ที่มีคนติดตามเป็นล้าน ๆ

แถมคุณแม่ป้ายแดง ยังได้ให้กำเนิด บุตรสาวคนแรก ออกมาให้ยลโฉม จนกระทั่งถึงบัดนี้กลายเป็นขวัญใจ ชาวโซเชียลไปแล้ว

เจนนี่ รัชนก เที่ยว

ปัจจุบัน เจนนี่ ในช่องยูทูบตนเอง “ยิวเจน Channel” ที่แอบควงสามี ไปมูเตลู

ที่สำนักเต็งหนึ่ง พร้อมเผยว่า เป็นหนแรกที่สามี ยอมดูดวง กับ แม่หมอเมรี ณิชานันท์ เจ้าของฉายา แม่หมอเน็ตไอดอล แถมยังเสริมดวง สักลายมือ

ซึ่งด้าน เจนนี่ ได้เผย ในคลิปถึงการมูเตลู ในครั้งนี้ว่า ” นานทีปีหนที่จะควงคุณสามีไปดูดวง จริง ๆ ส่วนตัว เป็นคนไม่ค่อยเชื่อ เรื่องดวงสักเท่าไร เพราะกลัวหมอดู จะทักอะไรที่ไม่ดี กลัวจะเป็นแพนิก แล้วก็จะรู้สึกเคลียด และก็คิดไปเอง

แล้วก็การมาที่นี่ คือสามีชวนไปดู เพราะถ้าหากได้ทราบอะไรไว้ เราก็จะนับเป็นแนวทาง ในการใช้ชีวิต และก็เตือนสติ และก็เรื่องนี้นับว่าเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล เพราะมาที่ สำนักเต็งหนึ่ง มาถึงก็จุดธูป เราก็ขนลุกมาก ๆ ไหว้กุมารไข่ดำ ที่คนมีชื่อเสียง มาขอพร แล้วก็แก้บนกันมากมาย

ที่สำคัญ ได้มาเจอ แม่หมอเมรี สำนักเต็งหนึ่ง แล้วก็แม่น้ำปั่น ยังย้ำว่าทั้งสองนั้น ดูดวงแม่นมาก ทักในหัวคิดแต่เรื่องเงิน งานนี้บอกเลยต้องรอรับความปัง หลังไปมูเตลู เสริมดวงจัดเต็มมาแล้ว ”

เจนนี่ รัชนก บ้านใหม่

เปิดภาพบ้านใหม่ เจนนี่ รัชนก ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ที่ชื่นชอบ หลังหามานาน 4 เดือน

ภายหลังจากนักร้องลูกทุ่งสาว เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ซื้อบ้านหลังใหม่ ที่จ.กรุงเทพฯ แต่หลังจากนั้น เจ้าตัวก็ตกลงเปลี่ยนบ้านหลังใหม่ เพราะอยากได้บ้าน ที่ใหญ่กว่าเดิม จนสุดท้าย ก็เจอบ้าน ที่ชื่นชอบแล้ว หลังใช้เวลาหานานกว่า 4 เดือน

โดย เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น โพสต์ภาพตนเอง กับบ้านตัวอย่าง ของโครงการ พร้อมทั้งเขียนใจความว่า “ รอบนี้ 4 เดือนเต็ม ๆ กับการหาซื้อบ้านใหม่ ที่กรุงเทพ สาเหตุที่เปลี่ยนบ้านเพราะอยากได้หลังที่ใหญ่กว่าเดิม จนสุดท้ายก็หาบ้าน ที่ถูกใจได้สักทีค่ะ จัดไปหลังนี้ เพื่อซื้อสิ่งแวดล้อมแล้วก็สังคมให้ลูก แล้วก็เพื่อครอบครัวใหญ่ในอนาคต

ในรูปเป็นบ้านตัวอย่าง ของโครงการนะคะ ที่เจนนี่ซื้อเป็นหลังใหม่กำลังสร้างค่ะ เสร็จประมาณกลางปีหน้า ภายหลังจากนี้ก็จัดเตรียมทำงานหนัก เพื่อหาเงินกันต่อค่ะ ท่องไว้ เพื่อลูก เพื่ออนาคต เพื่อครอบครัว ฉันทำได้ ลุยยยย

หลายท่านสงสัยทำไม ไม่ใหญ่กว่านี้ไปเลย บอกตรง ๆ บ้านใหญ่ ๆ ใคร ๆ ก็ต้องการมี แต่เจนนี่ไม่อยากเกินงบ ไม่อยากเป็นหนี้ ต้องการมีเงินเหลือไว้ ให้ลูกเรียนในอนาคต และก็ที่สำคัญ ถ้าหากซื้อเกินตัว กลัวจะกลับไปจน เอาไว้ให้มีเงินมากกว่านี้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน ”

อีกทั้งยังเขียนใจความ เพิ่มเติมอีกในคอมเมนต์ว่า “ ส่วนหลังที่ซื้อปัจจุบัน เจนนี่จะปล่อยขายนะคะ ใครสนใจทักแอดมิน ในแชทเพจได้เลยค่ะ ไปดูเป็น 30 โครงการ ดูเองทุกที่ ถามเองหาข้อมูลเองหมด กลัวไม่ถูกจ ”

โดยมีแฟน ๆ คอมเมนต์ยินดี ไม่น้อยเลยทีเดียว พร้อมทั้งชื่นชมความเก่ง ของนักร้องสาว บ้างก็พูดว่าคิดถูกแล้ว เก็บเงินไว้เพื่ออนาคตลูก เดี๋ยวมีเหลือเยอะ ๆ ค่อยเปลี่ยนใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ฯลฯ

เจนนี่ รัชนก สามียิว

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ขอบคุณทุกคำด่า แต่วันนี้เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว

ตั้งแต่มีลูก แต่งงาน นักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ ก็ยอมรับเลยว่า กลายเป็นคนที่ ใจเย็นมากยิ่งขึ้น ภายหลังที่เมื่อก่อนเป็นคนหัวร้อนสุด ๆ และก็เคยอยู่ในจุดอันตราย ที่ใครเตือนก็ไม่ฟัง แต่เมื่อมี ยิว ฉัตรมงคล เข้ามาในชีวิต ทุกอย่างดียิ่งขึ้น กว่าเมื่อก่อนมาก

ปัจจุบันในรายการ เม้าท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม EP.80 ทางช่องยูทูบ ที่มี เจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นพิธีกร เจนนี่พร้อมด้วยยิว ก็ได้มาเปิดใจ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต อยู่ในจุด ที่มีคนกดไลค์ 5 แสน แต่ด่าแสนห้า

เจนนี่ เผยว่า ตั้งแต่มี ยิว เข้ามา ทำให้เป็นคนใจเย็นขึ้น ด้วยเหตุว่าเขาเป็นคนใจเย็น เลยทำให้เรา ใจเย็นตามเขา แต่ก่อนไม่ว่า จะพูดหรือจะทำอะไร ก็ทำเลย เป็นคนหัวร้อนมาก ผู้ใดพูดหรือด่าอะไร มิได้เลย แต่พอเราโตขึ้น ได้ฟังคำพูดจากยิว เราก็ดีขึ้น

เนื่องจากว่าเราเจอดราม่ามาเยอะ โตขึ้นก็ต้องการจะสอน ให้ลูกรับให้ได้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะไปด่า คนที่มาด่าลูกเรา เราสอนให้ลูกให้อภัยและก็รับได้ดีกว่า

เจนนี่ กล่าวว่า ตัวเองเคยอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุด ในจุดที่ผู้ใดเตือนก็ไม่ฟัง จุดที่เรารู้สึกว่ามีสิทธิ์อะไร มาเตือนเรา สำเร็จเท่าเราแล้วหรือยัง แต่นั่นคือความเชื่อที่ผิดมาก เมื่อไหร่ก็ตาม ที่คนเตือนเรามิได้ นั่นแสดงว่าเราอัตรายแล้ว ชีวิตเราต้องลงแล้ว เขาเตือนมา อันไหนจริงก็ปรับให้ อันไหนไม่จริง เราก็เก็บไว้ภายในใจ ไม่ต้องไปตอบโต้ มันดีที่สุดแล้ว

 

เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน เปิดใจ

“เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน” เล่าเคยคิดสั้นฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ เผยมีแฟนแล้ว!

นักแสดงสาวสวย “เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน” ที่เบื้องหน้าเป็น คนเฮฮา แต่ว่าหลายคนยังไม่รู้ เจ้าตัวป่วยด้วย โรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก แล้วก็อาการหนักขึ้น จนกระทั่งเคยฆ่าตัวตาย มาแล้ว พร้อมเปิด โฉมหน้าแฟนหนุ่ม ที่นี่ที่แรก ซึ่งเป็นญาติของ จิน สามีหนิง ปณิตา ทุกประเด็น ในรายการคุยแซบ SHOW ออกอากาศ ทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยวัฒน์ แล้วก็เป๊กกี้ ศรีธัญญา ดำเนินรายการ

เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน คุยแซ่บโชว์

เสียใจด้วยเรื่องคุณพ่อ? เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน

เฌอเบลล์ : ขอบคุณค่ะ เรื่องพึ่งจะเกิดเดือนนิด ๆ ค่ะ ปัจจุบันนี้เข้าใจว่า มันเป็นธรรมชาติ ทำใจได้แต่ว่ายังไม่ชิน มากกว่า กิจกรรมที่เราทำกัน ตลอดมันหายไป เราเห็นการถดทอย ของช่วงวัยชราจนกระทั่งวันที่ เค้าจะไป เค้าก็โทรถามเราตลอด แต่ว่าเราติดงานอยู่ บินไปมิได้ที่ภูเก็ต กว่าจะได้กลับไป เป็นอีก 5 วัน ในช่วงนั้นจิตใจ ไม่ดีตลอด เค้าจะไปวันไหน ก็ได้วินาทีไหน ก็ได้ใน 5 วันนั้น หนูก็ได้แต่ว่าภาวนา ได้กลับไปบอกลาสักคำนึง ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นเค้าให้เวลาหนูเยอะอยู่ เค้าเพียงแค่บอกเรา ว่าเค้าจะนอนแล้วนะ กลับไปอยู่ที่บ้านกันไปได้แล้ว ถอดออกซิเจนออก เค้าพูดยังงี้

ซึมเศร้ากลับมากำเริบ?

เฌอเบลล์ : จริง ๆ มันจะมีขึ้น ๆ ลง ๆ บ้าง แต่ว่ามันกลับมาช่วงจังหวะโควิด งานไม่สเถียรแต่ว่า เรามีค่าใช้จ่ายปกติ เป็นห่วงด้วย เราอยู่กับคนอายุเยอะ เครียดไปหมดจะหาเงินจากไหน คุณพ่ออาการทรุดลงเรื่อย ช่วงโควิด มันเห็นชัดมาก

เป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็กๆ?

เฌอเบลล์ : ใช่ค่ะ มิได้โทษใคร เราเข้าใจว่าผู้ที่เป็นพ่อแม่คน ต้องพร้อมสำหรับในการจะเลี้ยง คุณแม่หนูเป็นคุณแม่ ที่เก่งแต่ว่าเค้ายังไม่พร้อมในจุดนั้น ฉะนั้นในการรับมือ เด็กคนนึง ที่มีภาวะเป็นไฮเปอร์ด้วย รับมือยาก เราเป็นผู้ที่ อ่านกลับหลังด้วย กว่าเราจะรู้เรา จะต้องไปหาจิตแพทย์ ตั้งแต่เด็กอันนี้ ที่เมืองนอก มีปัญหากับสารเคมีในสมอง แล้วบวกับเรา เป็นคนเซนซิทีฟมาก เพียงดุเบา ๆ เราจะเสียใจมากแล้ว ด้วยที่เรา เป็นเด็กซน เค้าอาจจะดุเรา มากกว่าปกติ เค้าเลี้ยงแบบดุ ๆ หน่อยเลยทำให้เรา เป็นเด็กเก็บกดด้วยค่ะ เป็นเด็กเก็บตัว ไม่ค่อยคบเพื่อน มีเปลี่ยนสภาพแวดล้อมตลอด

เราพยายามสู้กับมันมาตลอด?

เฌอเบลล์ : ด้วยความที่เรา ไม่เข้าใจเราทำอะไรผิด แม้กระทั่งการสั่งกลับหมดเลย คุณแม่ก็ยังไม่เข้าใจ เพราะเค้ายังไม่รู้ ตอนนี้ดีขึ้น มีฝึกการพัฒนา ทำกิจกรรมเรื่อย ๆ เพื่อสร้างความเคยชินให้สมองเรา พออายุ 12 มาไทย ก็จะต้องปรับตัว เพราะจะต้องพูดภาษาไทย

พูดไทยได้เมื่อไร?

เฌอเบลล์: เริ่มเข้าวงการเลยค่ะ เรื่องแรกที่หนูเล่น ยังให้คุณแม่ช่วยอ่าน แล้วเขียนภาษาไทยคาราโอเกะ คนในกองก็คอยแปลให้

ตอนเป็นนางเอกเรื่องแรกไม่มีความสุขเลย?

เฌอเบลล์ : คุณแม่เลี้ยงมาแบบไทย สไตล์ไม่มีชม แนวกดดัน คุณพ่อจะเลี้ยงแบบฝรั่ง เป็นเหตุและผล มีการชม ซึ่งเราชอบแบบคุณพ่อ แต่ว่าพอเจอแบบคุณแม่ ตั้งมั่นทำดีมาก ต้องการให้เค้าชม เค้าบอกทำได้แค่นี้เองหรอ เรารู้สึกเฟล มีความคิดว่าเค้าไม่รัก เราหรือไม่ มันเป็นปมเล็ก ๆน้อย ๆ ของเรา

มีคนเขามาหาผลประโยชน์?

เฌอเบลล์ : เราเป็นคนคิดดี กับใคร ไม่คิดว่าใคร จะคิดไม่ดีกับเรา หรืออยากได้อะไรจากเรา แต่ว่าบางครั้งทุกอย่าง ที่เค้าทำเป็นโอกาสของเค้า พอเรามารู้ตอนหลัง มันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรา มีความคิดว่าไม่เหลือใคร นอกจากครอบครัว แล้วเพื่อนก็คืออีกครอบครัวนึงของ พอไม่เหลือทั้งคุณแม่ ทั้งเพื่อนเราเลย มีความคิดว่าไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้งที่เรามีทุกอย่าง แต่ว่า ทำไมเราไม่เหลือความรัก ที่เราอยากได้

ทำให้คิดสั้น?

เฌอเบลล์ : มันเป็นมานาน ด้วยค่ะโดยที่เรา ไม่รู้ ไม่อาจจะหยุดติดได้เลย การทำงานที่มิได้นอนด้วย เครียดด้วยหลาย ๆ อย่างรวมกัน ทำให้อาการซึมเศร้า หนักขึ้นเรื่อย ๆ

เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน สัมภาษณ์

คิดสั้นถึงขั้นไหน?

เฌอเบลล์ : ผู้คอฆ่าตัวตายเลย ไม่บอกใคร นั่ง ๆ มองเพดานเอาเชือกผูกเลย แขวนไปแล้วแตะเก้าอี้ มันรัดคอหายใจ ไม่ออกมันทรมานมาก น้ำตามันเริ่มไหลออกมา บอกตัวเองไม่ได้อยากตายแล้ว แล้วจุดนั้นโคมไฟ ที่ไปแขวนกับผนังร่วงลงมา ครั้งแรกที่รู้สึกคือรอดแล้ว มันดีใจจนกระทั่งร้องไห้

อะไรทำให้สู้หลังจากนั้น?

เฌอเบลล์ : ไปพบแพทย์ เมื่อก่อนไปพบแพทย์ เราชอบศึกษาอะไรเอง แล้วมีความคิดว่าที่เรา เป็นมันไม่ปกติ ก็อ่านเจอมีความคิดว่า เป็นแต่ว่าไม่รู้ขั้นไหน เราไปบวชเจอกลุ่มนักบำบัด เค้าก็พาไปเจอแพทย์ คุยกับคุณหมอ ก็ได้ทานยาทุกวันนี้ ยังจะต้องทานยา

หากไม่ทานยาจะเกิดอะไรขึ้น?

เฌอเบลล์ : หากหยุดเอง มันอันตรายมาก หากหยุดเลยวันนึง อาการกำเริบจะเป็นหนักกว่าเดิม แล้วตัวยาที่เรา เคยกินมันจะใช้ไม่ได้ผล

เข็ดกับความรัก?

เฌอเบลล์: เข็ดมากค่ะ ทีแรกเค้าก็เหมือนไม่เข้าใจ แต่ว่าสุดท้ายก็เข้าใจ เอาที่เราสบายใจมีความสุข

ไม่เคยลงรูปคู่?

เฌอเบลล์ : ยังค่ะ มีรูปค่ะ แต่ว่าเราเก็บไว้ภายในเครื่องเรา

ต้องการบอกอะไรเค้า?

เฌอเบลล์ : ขอบคุณมาก ๆ ที่เค้าใจเย็นกับหนู ขอบคุณที่รักแล้วก็เอ็นดูเสมอ ขอบคุณที่เข้ามา เป็นทุกอย่างในชีวิต

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page

Aftersun ทริปพักร้อนพ่อลูก

รีวิวหนัง “Aftersun” ทริปพักร้อนพ่อลูก บาดลึกความสัมพันธ์ที่เต็มด้วยรอยร้าว

Aftersun ทริปพักร้อนพ่อลูก บางทีอาจต้องบอกตรง ๆ ว่านี่เป็นหนังที่ หลังจากดูจบลงไปแล้ว ต้องทำการตกผลึก แล้วก็ขบคิดไปครู่ใหญ่ นี่เป็นหนังจาก อังกฤษที่เปิดตัว ด้วยเสียงฮือฮา ในเทศกาลหนังเมืองคานส์

แล้วก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งใน ตัวเต็งรางวัลออสการ์ สาขาบทหนังในปีนี้ นี่เป็น “Aftersun” หนังดราม่า ครอบครัวสไตล์โฮมวิดีโอ ที่ซ่อนไปด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก ที่บาดซึมลึกแบบเกือบกัดกินใจ แล้วก็กลืนคนดูไปทั้งตัวเลยจริง ๆ

Aftersun ความสัมพันธ์

Aftersun รีวิวหนัง

Aftersun คือเรื่องราว การนึกถึงช่วงเวลา ที่ความสุขวันวาน

ของโซฟีกับพ่อของเธอ ที่พวกเขาสองพ่อลูกเคยออกทริป ไปพักร้อนที่เมืองชายทะเล ของตุรกี เมื่อสัก 20 ปีก่อน โดยความทรงจำพวกนั้นได้ ถูกบันทึกไว้ในกล้อง แฮนดี้แคมของพ่อ ที่เผยให้เห็น ความทรงจำ จินตนการ แล้วก็ห้วงเวลาแห่งอารมณ์ ที่หลากหลายที่เกิดขึ้น ที่ทำให้เธอต้อง เจอหน้ากับความสัมพันธ์ กับพ่อที่เธอรู้จัก กับผู้ชายที่เธอ ก็ไม่คุ้นเคยในบางวัน

นี่เป็นผลงาน การกำกับหนังยาว เรื่องราวของ “ชาร์ล็อต เวลส์” สาวนักสร้างภาพยนตร์ ชาวอังกฤษรุ่นใหม่ ที่กำลังเป็นที่ จับตามอง โดยเธอรับหน้าที่ ทั้งกำกับแล้วก็เขียนบท ด้วยตัวเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่

Aftersun เป็นหนังที่มี ความเป็นส่วนตัวในแบบฉบับ ของเธออย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็น การร้อยเรียงเรื่องราว การลำดับเรื่อง แล้วก็การออกแบบมุมมอง ภาพต่าง ๆ ที่ออกมาเป็นรูปแบบ หนังเรื่องราว ทุกอย่างค่อนข้างจะเสนอ ออกมาในรูปแบบเฉพาะ

แม้ว่าจะต้อง ยอมรับตรง ๆ เลยว่า Aftersun บางทีอาจไม่ใช่หนัง ที่เหมาะสมกับทุกคน เนื่องจากตัวหนังนั้น ก็มีความเฉพาะเจาะจง แล้วก็เป็นตัวของตัวเอง ค่อนข้างจะสูง

การนำเสนออาจจะไม่ใช่ หนังที่ดูง่าย สักเท่าไหร่นัก กับจังหวะหนัง ที่ยังต้อง ใช้กระบวนการ ขบคิดตามอยู่เรื่อย ๆ ตามไทม์ไลน์ของหนัง ที่แม้ว่าผู้ชม ได้ติดตามเรื่องราว ให้ดีนั้น ก็บางทีอาจหลงทาง ได้ด้วยเหมือนกัน

หากถามว่าบทหนัง Aftersun ดีเยี่ยมถึงขนาด ล่ารางวัลได้ไหม ก็บางทีอาจต้องว่า..ก็ได้ เนื่องจากบทหนัง เรื่องนี้เต็มไป ด้วยความซับซ้อนแล้วก็แนวความคิด เชิงซ้อนที่ทับถมกันเรื่อย ๆ ในชั้นบรรยากาศ ของหนังเอง ผิวเผินบทบางทีอาจดูไม่มีอะไร

แล้วก็ทำการสื่อสาร กับคนดูได้ค่อนข้างจะยาก กับไปไม่ถึงตัวผู้ชมสักเท่าไหร่ แต่หาก มาพิจารณาอย่างถ่องแท้ดี ๆ แล้วจะพบว่า บทหนังเรื่องนี้ แฝงเอาไว้ ด้วยส่วนประกอบ ปลีกย่อยเยอะมาก เอาไว้ให้คนดู ได้กลับไปคิด ทบทวนกันต่อ

เชื่อว่าหลาย ๆ คน ที่ดูหนัง Aftersun เรื่องนี้จบลงแล้ว น่าจะมีข้อสงสัย อยู่ในหัวเยอะมาก เนื่องจากการ เล่าเรื่องของหนังบางทีอาจ ไม่ได้มีการเกริ่นใด ๆ ออกมาอย่างชัดเจน

ไม่ได้มีการถ่ายทอดให้เห็นว่า อะไรเป็นผลเหตุ ของการกระทำต่าง ๆ พวกนั้นที่เกิดขึ้นกับ ตัวละครของพ่อ ไม่ได้ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างพ่อลูกคู่นี้ แต่นั่น ก็เป็นอีกหนึ่ง เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ นั่นเอง

Aftersun หนัง

ในเมื่อหนัง มาในแนวทางนี้ ก็ต้องพึ่งพา การแสดงที่มั่นคง

มาช่วยเอาไว้ และ “พอล เมสคัล” เป็นเพชรเม็ดงาม จากอังกฤษ ที่เขาได้เจิดจรัส กับการแสดงอีกรอบ เขาพึ่งจะแจ้งเกิดมาจาก The Lost Daughter เมื่อปีก่อน ก่อนหน้านี้ก็พึ่งจะมี God’s Creatures ที่ได้รับคำชม ด้วยเหมือนกัน

มาในเรื่องนี้ เขาก็มอบการแสดง ที่เต็มไปด้วยมิติแล้วก็น่าค้นหา อย่างดีเยี่ยม แถมบทที่ เขาได้รับนับว่า ค่อนข้างจะเกินวัย ของตัวเขาเองอยู่ เขาเป็นส่วนประกอบที่เด่น ที่ออกแบบบทบาทนี้ ออกมาได้ อย่างจับจิตจับใจ

ในตอนที่ผลงาน การแสดงเรื่องแรกของ “แฟรงกี้ โคริโอ” ที่ต้องปรบมือ ให้จริง ๆ นี่เป็นนักแสดงเด็ก ดาวรุ่งที่พึ่งจะเปิดตัว แจ้งเกิดมา จากหนังเรื่องนี้เรื่องแรก แต่เธอก็สามารถ ถ่ายทอดบทบาทออกมา ได้อย่างธรรมชาติแล้วก็แทรกซึม เข้าไปถึงบทบาท ได้อย่างน่ามหัศจรรย์

ทั้งเสน่ห์แล้วก็การแสดง ที่น้อยแต่มาก ยิ่งทำให้เด็กสาวคนนี้ มีออร่าเปล่งประกายขึ้น มาบนจอ แล้วก็เป็นองค์ประกอบ ที่ส่งเสริมลงตัว ได้อย่างดีในหนังเรื่องนี้ ในภาพรวม

ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่า  เหมือนพาคนดู มาย้อนดูความทรงจำ ที่ทั้งสุขทั้งทุกข์ของพ่อลูกคู่หนึ่ง ที่ค่อย ๆ ไต่ระดับอารมณ์แล้วก็ความสัมพันธ์ ในช่วงเวลาแห่ง การท่องเที่ยวในตอนปิดเทอม ที่ได้เผยมุมมองต่าง ๆ ของแต่ละฝ่าย

จากโครงการครอบครัว ที่แหลกสลายลงไปแล้ว ความไร้เดียงสาของเด็กสาว ที่กำลังโตขึ้นเป็นสู่วัยรุ่น มาพบกับชายหนุ่ม ที่ย่างสู่วัยกลางคน ที่เผชิญหน้ากับ ห้วงชีวิตที่แสนซับซ้อน เป็นความคอนทราส ที่ถูกนำมาผสมเข้ากัน ในเรื่องนี้

เป็นหนึ่งในโปรแกรม ฉายในเทศกาล หนังนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 15 ที่กำลังจัดขึ้น ในตอนนี้ แต่หนังก็จะเข้าฉาย รอบปกติในพักหลัง จากเทศกาลปีใหม่นี้ ถึงหนังจะไม่ใช่ หนังที่เหมาะสมกับทุกคนดูก็ตาม

แต่อย่างน้อย ๆ ข้อความของหนังเรื่องนี้ ที่พยายามสื่อสาร ออกมานั้น ก็ค่อนข้างจะทรงพลัง ระหว่างสายใยพ่อลูก เป็นความทรงจำ วันวานของครอบครัว ถวิลหาแห่งกลิ่นของยุค 90s เบา ๆ เป็นหนังดี ที่บางทีอาจเข้าถึงยาก สักนิดสักหน่อย แต่ทิ้งเอาไว้ด้วยความลึกซึ้ง ที่อบอวลทั่วหนัง

 

Violent Night รีวิวหนัง

รีวิวหนัง “Violent Night คืนเดือด” ได้ครบอรรถรสบันเทิง กับซานต้าผู้ครอบครองค้อน!

Violent Night คืนเดือด ย่างไปสู่เดือนธันวาคม ท่วงทำนอง เพลงประกอบเทศกาล ก็เริ่มดังกังวานมากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็ประจวบเหมาะ กับการมาของหนัง ที่เข้ากับตอนบรรยากาศ แบบนี้ เพียงแต่ว่าปีนี้ เขาไม่ได้มาด้วยมาด ที่อบอุ่นเป็นที่รักของเด็ก ๆ เพียงอย่างเดียว

เพราะเหตุว่าคราวนี้เขามาเพื่อ..สู้กลับ กับหนังคริสต์มาส คอนเซ็ปต์น่าสนใจ “Violent Night คืนเดือด” ที่เป็นการผสมผสานทุกอรรถรส ความบันเทิงของหนังฮอลลิวูด เข้าหนึ่งเดียวได้โดยแท้

Violent Night ซานต้า

Violent Night คืนเดือด คือเรื่องราว ของกลุ่มทหารรับจ้าง

ที่ได้รับงานมา เพื่อจู่โจมเป้าหมาย เป็นตระกูลมหาเศรษฐี ที่กำลังเฉลิมฉลองในตอนเทศกาล แห่งครอบครัว งานนี้ถึงเวลาของ ซานต้าคลอส ที่จะต้องออกโรงบู๊ สำหรับในการกอบกู้สถานการณ์ ที่สามารถจะช่วยพิทักษ์โลก ปกป้องครอบครัวนี้ และวันคริสต์มาส เปลี่ยนเป็นมหกรรม การต่อสู้ที่แม้แต่ เวทมนตร์แห่งวันคริสต์มาส ยังมิอาจเทียบได้

แน่นอน ว่าเพียงเห็นชื่อผู้กำกับ “ทอมมี่ เวอโกล่า” ก็น่าจะการันตีได้ถึง ความโหดความดิบ อันมีสไตล์ของเขา แบบที่เขาเคยทำได้ เอาไว้ภายในหนังแจ้งเกิด Dead Snow ทั้ง 2 ภาค มาคราวนี้ถือว่า ได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ขึ้น

ได้มาหยิบจับ สร้างสตูดิโอใหญ่ดูบ้าง แน่นอน ว่ามีอะไร ๆ ให้เขาได้เล่นแบบ ไม่ยั้งเพิ่มขึ้น มีเพียบ และไม่ปล่อยให้ลีลา การละเลงในบู๊ ตามจังหวะของเขาผู้นี้ต้องเสียเปล่าไป และยังสามารถสอดแทรก ประเด็นอื่น ๆ ตามใบสั่งเอาไว้ ได้อย่างบันเทิงใจต่อผู้ชมจริง ๆ

หนังเรื่องนี้ ได้คู่หูนักเขียน “แพต เคซีย์” กับ “จอช มิลเลอร์” แห่ง Sonic the Hedgehog ทั้ง 2 ภาค ที่ผ่านมา มารับหน้าที่ปรุงแต่งเรื่องราวบู๊ สุดอบอุ่นให้ คงจะต้องบอกว่า บทหนังก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ อะไรเท่าไร มาเป็นแพ็คสำเร็จ ของบทหนังแนวเทศกาล แบบเดิม ๆ

กลับใส่ลูกเล่น เอาไว้ได้แน่นเอียด เราอาจจะบัญญัติได้ว่า หนังเรื่องเป็นแนว แอคชั่นผสมตลก ซ้ำยังเป็นความเป็นหนังครอบครัว มีสไตล์ขี้เล่น เป็นเจ็บตัว แต่ว่าก็ขึงขัง ผสมโรงเรื่องอาชญากรรม ว้ำยังปะปน ความเป็นดราม่าเข้าไปได้อีก มีหลายอารมณ์ และแนวทางในหนังเรื่องนี้ เรื่องเดียวมาก ๆ

Violent Night บู๊เดือด

และเมื่อนำองค์ประกอบ ทุก ๆ อย่าง รวมกันนั้น Violent Night คืนเดือด ก็เลยได้รสชาติที่ออกมา ได้บันเทิงโดยแท้ ด้วยเหตุว่าหนังสามารถแทรกเข้าไป ถึงทุก ๆ อณูของประเด็นได้ดี แม้ว่าจะเป็นแตะประเด็นนั้น ๆ

เพียงผิวเผินเท่านั้นก็ตาม ไม่ได้ขยี้ไปสุดทาง แต่ว่าก็เป็นความผิวเผิน ที่เพิ่มเติมแขนขา ให้กับหนัง ได้มีอรรถรสที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น คอนเซ็ปต์ของหนังถือว่าแจ๋ว

ด้วยเหตุว่าเป็นการหยิบ สไตล์หนังครอบครัวฟีลกู้ด เกี่ยวกับคริสต์มาส ที่เรามักเห็นบ่อย ๆ มาโยงผูกเข้ากับ การโจรกรรมแอคชั่นสุดระห่ำ พล็อตแค่นี้ คนชอบดูหนังเห็นก็ซื้อใจได้แล้ว

ถึงลำดับ การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ อาจจะไม่ได้กลมกล่อม ได้ถึงที่สุด หนังคงมีบางส่วน บางตอนที่ขาด ๆ เกิน ๆ ย้วยเกินไป หยาบเกินไป แล้วก็ติดอาการทีเล่นทีจริง ไปเยอะสักหน่อย แต่ว่าก็จัดได้ว่า หนังก็มอบทุกรสให้กับ ผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม

และรู้ดีว่าผู้ชมอยากได้อะไร และสามารถเข้าใจ กับตอบโจทย์นั้น ๆ ออกมาได้ดี เป็นหนังคริสต์มาส ที่เต็มไปด้วยฉากสยดสยองและหวาดเสียว ที่ดีไม่ดี ต้องร้องกรี๊ด ตามออกมาด้วย

“เดวิด ฮาร์เบอร์” ก็คือ ยืนหนึ่งและแบกหนัง ทั้งเรื่องเอาไว้ ได้สบาย ๆ แบบคนเดียวเลย ทุกคนต้องตกหลุมรักซานต้า ในรูปแบบของเขาตามกัน ด้วยเหตุว่านี่คือซานต้า ที่เหมือนจะสามารถ แตะต้องและเข้าถึงได้ดี กว่าเรื่องอื่น ๆ

สามารถถ่ายทอดบทนี้ ออกมาเป็นนักสู้ธรรมดา ที่มีเลือดมีเนื้อ ไม่ได้เก่งโอเวอร์ เหนือธรรมชาติเกินไป สามารถปั้นคาแรกเตอร์ ออกมาได้สมน้ำสมเนื้อ และเป็นคู่ต่อสู้ ที่สร้างความบันเทิงได้เด่น ในหนังเรื่องนี้

Violent Night ช่วยกัน

ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบ คนอื่น

ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน แม้ว่าพวกเขาจะ ไม่ได้เด่นเท่ากับบทซานต้า แต่ว่าการมีทุกคน อยู่ในซีนร่วมด้วยกัน เป็นองค์ประกอบเสริมที่ดี ช่วยกันปล่อยมุกและส่งต่อกัน อย่างไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็น “เบเวอรี่ ดีแองเจโล”, “จอห์น เลอกิซาโม”, “แคม จีกอนเดต์”, “อเล็กซิส ลาวเดอร์” หรือ “เอดี้ แพตเตอร์สัน” พวกเขาเป็นตัวขโมยซีน ที่เป็นสีสัน ให้กับหนังเรื่องนี้ได้ดีแท้

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว Violent Night คืนเดือด ก็เลยกลายเป็น หนังที่เติมเต็มและมอบความบันเทิง ได้ครบรส ให้กับผู้ชมโดยแท้

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงหนังสูตรสำเร็จ ที่ทายได้ง่าย ๆ และเป็นความบันเทิง ที่เพลินและสนุกไปตลอดทั้งเรื่อง เป็นหนังที่หยิกแกมหยอก ออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ หยิบยืมหนังคริสต์มาสดัง ๆ มาใช้เป็นกลิ่นอายเรียกแขก บอกได้เลยว่า ทั้งบู๊ ทั้งฮา ทั้งอบอุ่น มันอบอวล อยู่ในเรื่องนี้ เรื่องเดียว ได้อย่างน่ามหัศจรรย์

 

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง Violent Night คืนเดือด

ประเภท: แอคชั่น / ตลก / อาชญากรรม

ผู้กำกับ: ทอมมี่ เวอโกล่า

นำแสดงโดย: เดวิด ฮาร์เบอร์, จอห์น เลอกิซาโม, เบเวอรี่ ดีแองเจโล

ความยาว: 101 นาที

กำหนดฉายในไทย: 1 ธ.ค. 2022 (ในโรงภาพยนตร์)

 

พอร์ช ศรัณย์ พักปาร์ตี้

“พอร์ช ศรัณย์” คนใหม่เที่ยวจนอิ่มตัว ลดปาร์ตี้กู้คืนหุ่นเท่ ชอบเข้าป่าแคมปิ้งแฟนเข้าใจ

เติบโตถึงจุดที่นิ่ง พักงานเลี้ยง เดินสายธรรมชาติ เข้าป่าแคมปิ้ง พระเอกหนุ่ม พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์ เปิดใจในงานฟิตติ้งละคร “เจ้าสาวในสายลม” ที่ไพเรท สตูดิโอ ซอยสุคนธสวัสดิ์ ว่า ตั้งแต่เป็นนักแสดงอิสระ ทำให้มีความรับผิดชอบ มากเพิ่มขึ้น อิ่มตัวเรื่องงานเลี้ยง เป็น พอร์ช คนใหม่แล้ว

“ การเป็นนักแสดงฟรีแลนซ์ ก็ดีแล้วครับ สนุกดี ได้ไปออกรายการหลากหลาย ได้ไปเล่นเกมโชว์ ได้พบนักแสดงใหม่ ๆ ทีมงานใหม่ ๆ สนุกดีครับ ช่วงนี้เริ่มทำ ช่องยูทูบด้วย เป็นแบบเข้าป่า ตัวก็อาจดำ ๆ หน่อย เป็นแนวแคมปิ้ง ติดเกาะ เราเป็นสายแคมปิ้งอยู่แล้ว มาพบรุ่นพี่ ที่เค้าถ่ายอยู่แล้ว เขาเลยชวนลองทำ ก็เลยลองดู ทำมาหลายคลิปแล้ว แต่ยังไม่ได้ปล่อยเยอะ เวลาแคมปิ้งก็ไปคนเดียว ปกติไปคนเดียวแต่ มีทีมงานไปด้วย ผมว่าเสน่ห์ของการไปแคมป์ปิ้ง คนเดียวมันสนุก มันมีความรู้สึกว่าได้ ไปนั่งทบทวนตัวเอง นั่งเหงา ๆ แล้วไม่เล่นโทรศัพท์ มัน ไม่มีสัญญาณด้วย แต่บางที่ก็มีนะไปเกือบทุกอาทิตย์ ไปอาทิตย์ละ 4 วัน แล้วกลับมากรุงเทพฯ ”

พอร์ช ศรัณย์ ทำยูทูบ

พอร์ช ศรัณย์ ไปแคมปิ้งทำทุกอย่าง ด้วยตัวเองหมด?

“ ใช่ มีก่อไฟ จุดตะเกียงครับ สนุกดี ช่องยูทูบเปิดไปแล้ว Porshe Saran Channel ถ่ายคลิปรีวิวของเล่น ๆ ไปก่อน แต่คลิปแบบจริงจัง ถ่ายมาราว ๆ 4-5 อันแล้ว ยังไม่ได้ปล่อย ”

วันเกิดปีนี้ดูเงียบ ๆ ไม่หวือหวา?

“ วันเกิดปีนี้ ผมอยู่แคมป์ไม่ได้ไปไหนเลย ไม่ได้จัดงาน จากปกติเราจะไปกับเพื่อนงานเลี้ยง แต่ปีนี้ไม่มี ก็แค่คุยกับเพื่อนในไลน์ แต่ตัวเราไปอยู่ต่างจังหวัด ตอนวันเกิดคงจะอยู่เขาใหญ่ อยู่ในแคมป์คนเดียว ก็มีคนรอบข้างที่มากางเต็นท์ ก็เม้าท์มอย พบเพื่อนใหม่ ๆ ไม่เหงา สนุกดี เราอยู่กับแสงสี มาเยอะแล้วครับ เปลี่ยนบ้าง (หัวเราะ) ”

เกิดอะไรขึ้นจากแต่ก่อนสายปาร์ตี้ เดี๋ยวนี้ชอบอยู่กับตัวเองคนเดียว เป็นนิวพอร์ชไปแล้ว?

“ ในตอนนี้ไม่ไปเป็นปีแล้ว เราก็ 31 แล้วครับ ช่วงหลังมันเบื่อคนเยอะ มันอิ่ม มันเที่ยวมาเยอะแล้ว พอไปอยู่เพียงลำพังมันได้ ไปนั่งทบทวนตัวเอง ไม่เล่นโทรศัพท์ ทีแรกมันบังคับเรา ด้วยเหตุว่ามันไม่มีสัญญาณ ก็นั่งงุ่นง่านอยู่คนเดียว ต้องเดินออกไปหาสัญญาณ แต่พอหลังจากนั้น ลองอ่านหนังสือ ก็โอเคครับ มันทำให้เราสงบขึ้น มีความรู้สึกว่าตัวเอง มีความรับผิดชอบเยอะขึ้น กลับไปอยู่ที่บ้าน ทำไมบ้านรกจังวะ จัดบ้าน เก็บของ โละออกเอาของทิ้ง ”

เราก็รู้สึกมั้ยว่าตัวเอง เป็นนิวพอร์ช เป็นคนใหม่โตขึ้น?

“ ก็นิดหนึ่งครับ (ยิ้ม) รู้สึกได้อยู่กับตัวเองเยอะขึ้น แล้วก็คิดทำนู่นทำนี่ ด้วยเหตุว่าปกติเรา จะคิดอย่างเดียวว่า วันนี้ไปไหนดีวะ เพื่อน ๆ ก็มีงง มีแต่คนพิมพ์มาหาวันเกิด เฮ้ย ไปไหนไม่ชวนเลยว่ะ เราบอกไม่ได้ไป ปีนี้อยู่ป่า เพื่อนก็บอกโกหดก ระยะนี้ก็หาที่ไปเที่ยวลาน เข้าป่า แคมปิ้ง ตอนนี้ลานแคมปิ้ง มันเยอะด้วย แต่เราจะไปลาน ที่คนน้อย ไพรเวตหน่อย ไปแล้วอยู่ราว ๆ 3 วันแล้วกลับ ”

พอห่างปาร์ตี้ เดี๋ยวนี้ดูหล่อสดใสขึ้นมากเลย?

“ ดีขึ้น ๆ (ยิ้ม) ฟรีแลนซ์แล้วก็ต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ต้องดูแลตัวเองขึ้นนิดนึงครับ ”

ลดหุ่นยากมั้ย กว่าจะได้กลับมาเท่าเดิม?

“ เอาจริง ๆ ทำตัวดังเดิมนะ แต่เพียงปาร์ตี้ลดลง ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย ก็อยู่แต่บ้านประมาณ 3 วัน ก็ไม่ไหวแล้ว ต้องออกไปต่างจังหวัด แต่ตอนนี้ถ้าเกิดเริ่มถ่ายทำ ถ้าออกต่างจังหวัด ผมก็จะไปแค่ชลบุรี จันทบุรี ระยอง เขาใหญ่ ใกล้ ๆ ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดไปเชียงใหม่ มันต้องไปอาทิตย์หนึ่งครับ เดี๋ยวไม่ได้ถ่ายละคร ”

พอร์ช ศรัณย์ ประวัติ

แล้วคนที่คุยด้วยเค้าทำเช่นไร เวลาที่เราไปแล้วไม่มีสัญญาณติดต่อไม่ได้?

“ โอเคนะครับ เขาเข้าใจนะ ถามว่าเค้าอยากไปด้วยมั้ย คือถ้าเกิดชอบความลำบากก็ไปได้ แต่ผมไปแบบลำบากจัด ๆ เลย ส่วนใหญ่เค้าจะไม่ไหวกัน ขนาดพาพ่อไปด้วย พ่อยังพูดว่าพอร์ชเรา ไปลานเอกชนมั้ยลูก (หัวเราะ) ผมไปอุทยานเค้าจะปิดไฟเป็นเวลา บางทีคนไม่เคยไปแล้วมันจะเครียด ห้องน้ำไม่สะดวก แต่ผมสบาย ผมอยู่ตรงไหนก็ได้ไง ”

เค้าชอบมั้ย กับการที่เราเป็นแบบนิวพอร์ช?

“ ชอบนะ มีความรู้สึกว่าเป็นคนมีความรับผิดชอบมากขึ้นมากเลย อันนี้เรื่องจริงนะ เรานั่งเบื่อ ๆ สงสัยเราต้องจัดบ้านแล้วแหละ ตอนนี้เราน้ำหนักขึ้นหรือเปล่านะ จะหันกลับมามองตัวเองมากขึ้น ”

ทำให้ผู้ที่อยู่กับเราสบายขึ้นด้วยมั้ย?

“ สบายขึ้นด้วย แต่กลายเป็นว่า อยู่คนเดียวมาก ๆ เริ่มติดอยู่คนเดียวแล้ว ไปไหนไปคนเดียวสบายใจกว่า ”

แล้วคนที่คุยด้วยล่ะ?

“ โอเคครับ เราก็แบ่งเวลาให้ถูกก็พอ แต่เวลาไปผมก็จะหายไปเลย บางทีถ้าเกิดติดต่อไม่ได้ ก็ต้องบอก เค้าเข้าใจครับ ส่วนเรื่องสถานะเรา ไม่ต้องพูดหรอก บางทีมันก็รู้กันอยู่แล้ว ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน (หัวเราะ) ยังไม่คบ ๆ สบายใจครับ อยู่กับตัวเองมากขึ้น อยู่กับคนที่เค้าเข้าใจเรา อยู่กับเราได้ก็พอแหละ ”

 

ประวัติ พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์

ชื่อจริง ศรัณย์ ศิริลักษณ์ เกิดที่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เป็นบุตรของ จักร์ ศิริลักษณ์ และ ณัฏฐ์ศิร์ ศิริลักษณ์
มีพี่สาว 1 คน ชื่อ จิรัฏฐา ศิริลักษณ์

แต่ต่อมาย้ายไป อยู่ที่อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ด้านการศึกษา เรียนจบระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนยอแซฟวิทยา และมัธยมต้นจากโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ จังหวัดจันทบุรี ระดับม.ปลายที่ โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี และสำเร็จระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต เดิมเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ